วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
Dunkirk (2017) สปอย (Spoil)
เนื่องด้วยวันนี้ไม่ได้ขึ้นไปทำงานที่กัลยาณิวัฒนา ไปส่งงานที่จังหวัดแล้วแอบโดดนิดหน่อย เลยมาดูหนังที่อยากดูมาสักพักแล้ว ก้คือเรื่องดันเคิร์ก เรื่องนี้ ....นี่เอง ก็ที่ผ่านมาไม่ได้ชงนฝ้ายหรือแม่มาดูเรื่องนี้เพราะเราคิดว่ามันไม่ได้เป็นหนังที่เหมาะสำหรับทุกคนนะ มันไม่ได้บู้ สนุก หรือซึ้งแบบหนังตลาดทั่วไป เลยไม่กล้าเอาคนที่รักทั้ง 2 คนที่ว่ามาดู ก็ต้องหาเวลามาดูเอง
เราไปดูในIMAXมา เป็นความตั้งใจที่อยากดูแบบIMAXเท่านั้น ก็ถ้าเป็นโรงธรรมดาก็คงไม่ดูอ่ะ ที่อยากดูคืออยากดูงานภาพของโนแลนที่ว่ามันจะเจ๋งแค่ไหน ถึงจะไม่ได้ดูแบบฟิลม์ 70 ม.ม ซึ่งประเทศไทยมีแค่ที่พาราก้อนคงไปดูไม่ไหว ก็ดูได้แค่ที่IMAXเซนเฟสก็ดีใจละ
หนังก็ดูเรื่อยๆนะ มันมีซีนให้ลุ้นเรื่อยๆทั้งเรื่องจริงๆ แต่เปิดมาก็ตกใจเสียงปืนฉากแรกเลยเสียงดังมาก คงเป็นเพราะหูเรายังไม่ชิน มันแบบดังแบบน่ากลัวมากจริงๆ ละก็ฉากที่เครื่องบินทิ้งระเบิดครั้งแรกอีก คือแม่งเห็นคนโดนระเบิดลอยอ่ะ กุนิอุทาน เหี้ย!!! แบบไม่รุ้ตัวเลยมันแม่งเสียงระเบิดแบบโรงสั่นอ่ะ แล้วก็มันมีสามเหตุการณ์มีมันจะเชื่อมโยงกันมีบนชายหาด 1 อาทิตย์ บนเรือ 1 วัน บนอากาศ 1 ชั้วโมง ตอนแรกก็งงว่ามันจะเชื่อมกันยังไง ปรากฏว่ามันก็จะเล่าเป็นเหตุการณ์เดิมนี่แหละ แต่คนละมุมมองสามมุมไง คือพอมาดูรวมๆกันมันก็จะเห็นภาพกว้างทั้งหมด มีฉากที่ทำเราน้ำตาตกด้วย มันอินฉากที่เห็นเรื่องชาวประมงมารับทหารที่ชายฝั่งแบบ น้ำตาไหลเลย แบบเราอย่างอิน 5555 ไม่รุ้จริงๆว่าถ้าไม่ได้ดูในIMAXจะอินแบบนี้รึปล่าว แล้วก็ดูไปเรื่อยๆจนจบ
สรุปดีนะมันก็เพลินๆดีตามมาตรฐานโนแลนไม่มีใครเท่เลยนอกจากพี่ที่ขับเครื่องบิน เยดเข้อันนี้เท่จริง นอกนั้นคือเป็นตัวละครที่พร้อมจะตายได้ทุกเวลาเลย ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ข้างๆตัวละครเลยอ่ะ
คะแนน ๘/๑๐ คะแนน สำหรับIMAX
วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
A SILENT VOICE (2017) รักไร้เสียง สปอย (Spoil)
เออ.....ก็ด้วยความที่เมื่อกี้เผลอไปกดฟังเรื่องผีมาละหลอนไง เลยอยากหาอะไรดูที่มันจรรโลงจิตใจย้อมใจก่อนนอนให้ฝันดีเลย เลือกเรื่องนี้มาละกัน อยากดูตั้งแต่ตอนเข้าโรง มันก็เป็นผลต่อเนื่องมาจากเรื่อง your name ด้วยแหละจำได้ว่าเรื่องนี้มันเกาะกะแสกันมา เรานี่ปกติไม่ค่อยเท่าไหร่กะเมะพวกนี้ แต่เรื่องยัวแนมนี้ก็ทำให้เราเปิดใจมากขึ้นอ่ะนะ
เรื่องนี้หน้าหนังโปสเตอร์นิมันต้องหนังรักแน่ๆ รักใสๆ ไม่เชื่อฟังเพลงประกอบก็ได้มันต้องล่องลอยอยู่ในโลกสวยงาม กลางทุ่งดอกไม้แน่ๆ https://www.youtube.com/watch?v=R2c_fMrookE ตอนแรกก็ดูเพลินๆอ่ะนะ ช่วงนี่เนื้อเรื่องตอนยังเป็นเด็กๆกันกลุ่มนี้ก็ตามสไตล์มันก็มีทั้งเด็กดีอเด็กดื้อปะปนกันไป จนการมาของนางนิชิมิยะ น้องที่เป็นใบ้แต่จิตใจโครตนางเอกช่องเจ็ดเลย อิชิดะพระเอกเราก็เลยแกล้งโดยที่ไม่รุ้ใจตัวเองอ่ะนะ คือไม่เข้าใจตังนางเอก พอไม่เข้าใจ สื่อสารแม่งลำบาก แกล้งแม่งเลย แล้วการแกล้งนิมันก็ส่งผลกระทบต่อเป็นทอดๆไง นางเอกโดนแม่บังคับให้ย้ายโรงเรียน พระเอกกลายเป็นคนที่ไม่มีใครคบ จากเป็นเด็กธรรมดา ทีนี้เลยกลายเป็นตัวประหลาดเหมือนที่ตัวเองโดนแกล้ง แล้วเรื่องก็ตัดมาตอนมัธยม พระเอกแม่งเลยกลายเป็นพวกลู๊ดเซอร์เลย ไม่กล้ามองหน้าคน ไม่ฟังเสียงคนรอบข้างเพราะกลัว หนีสิ่งที่ไม่อยากได้ยิน แล้วก็หนีมาเรื่อย จนกลับมาเจอนางเอกอีกครั้ง ทั้งคู่แม่งก็มาช่วยกันสะสางปมในใจของทั้งคู่แล้วก็เหมือนเรียนรู้ที่จะโต ก้าวผ่านช่วงวัยไปด้วยกัน แล้วไม่พอยังดึงเพื่อนๆตอนเด็กๆมาโตไปด้วยกันข้ามผ่านช่วงวัยไป
ตอนจบพระเอกอิชิดะกูก็เปิดใจรับฟังยอมฟังเสียงของทุกสิ่งรอบข้าง มองหน้าคน ฟังเสียงคน รู้แล้วก็เข้าใจว่าไม่มีคนชอบเราไปทั้งหมด แล้วก็ไม่ชอบทั้งหมดเหมือนกัน เหมือนพระเอกมันโตก้าวข้ามปมของตัวเองไปได้ เพื่อนๆที่อยู่รอบๆก็ต่างก้าวข้าม โตไปก้าวข้ามปัญหาของตัวเองไปได้ แต่มันก็ไม่ได้แบบเป็นสูตรสำเร็จเลยนะว่าใครเป็นไง คือมันต้องคิดนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หนัหัวเกินไป
สรุปหนังแม่งไปคนละทาง คนละแนวกับความคิดที่คิดไว้ เหมือนตอนดูรักแห่งสยามครั้งแรกคือคิดว่าแม่งรักใสๆ แต่จริงๆแล้วเป็นหนังครอบครัว หนักเด็กที่กำลังจะค้นพบตัวเอง แม่งเหมือนกันเรื่องนี้แหละ มันคาดไม่ถึง แต่ก็เป็นความรู้สึกที่โอเค มันมากกว่าหนักรักวัยรุ่น มันเหมือนให้เราไปดูชีวิตที่มันค่อยๆโต เพลินดี เรื่อยมากๆ มากจริงๆ ไม่มีจุดว้าว จุดพีคเลย แต่มันก็ตามสไตล์นี้อยู่แล้ว แล้วก็ด้วยความที่มันเป็นเมะด้วยรึปล่าวไม่รุ้ บางครั้งรุ้สึกหนังไม่สมเหตุสมผลอะไรเลย มันแบบฉับๆ ตัดไปเลยไรงี้ หรือบางอย่างก็ยังงงๆ คือเราอาจจะตีความได้ไมถึงก็ได้ บางอย่างเลยยังไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่นางเอกจะฆ่าตัวตายหลังจากไปดูดอกไม้ไฟกับพระเอก ในหนังไม่ไดเบอกให้ชัดๆนะ เราก็คิดไปเองว่าพึ่งเหมือนมีความสุขอยู่ดีๆฟิลกู๊ดดีๆ แม่งตัดมาอีกทีจะโดดตึกละไรงี้ แต่โดยรวมก็ดีต่อใจนะ ใช้ได้ๆ
คะแนน ๗/๑๐ คะแนน
![]() |
ชอบไอ่ตรงที่มีกากบาทหน้าคนแม่งทั้งเรื่อง อันนี้แม่งอธิบายได้ชัดเจนดีมาก เราเข้าใจว่าพระเอกแม่งไม่เปิดใจรับฟังใครไง ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรเลย จนตอนจบพระเอกเคลียด่านเสร็จเครื่องหมายกากบาทถึงได้หลุดไป |
MEMORIES OF MURDER (2003) ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน สปอย (Spoil)
นี่แหละชื่อหัวเรื่องมันเอาแม่งชื่อหัวมันก็เอาชื่อหนังมาแบบนี้แหละ ๕๕๕ คือเรื่องนี้ก็มันเริ่มจากเราแม่งมีฟิลอยากดูหนังเกาหลีแบบไอซอเดวิ้วงี้ ก็ไปเซิชหาชื่อหนังเกาหลีแนวนี้มา ปรากฎว่าเรื่องนี้มาแรงว่ะ ละเราแม่งก็ไม่เคยดูด้วย ก็เลยจัดแม่งซะหน่อย
สปอย (Spoil) ก็ตามธรรมเนียมคนดูหนังอ่ะนะ ถ้าจะเล่าถึงหนังอะไรละแม่งมันมีเล่าเนื้อหาของเรื่องก็ต้องบอกไปว้ก่อน เดียวใครมาอ่านละไม่เคยดูจะเสียความรู้สึก
เริ่มมาก็ตามสไตล์หนังเกาหลีหน่อยๆมาแบบช้าๆคือถ้าใจไม่แข็งพอไม่ห้านาทีสิบนาทีแรกมีปิดหนีไปหลับแน่นอนก็มีตำรวจเกาหลีบ้านนอกๆ แบบทำงานชุ้ยๆอ่ะว่าง่ายๆนะมาทำคดีสาวโดนฆ่ากรรมไงก็มันก็จะสืบแบบชุ้ยๆไงงี้มีซ้อมให้รับสารภาพ มีสร้างหลักฐานเท็จ เยอะแยะ แล้วก็จะมีตำรวจหนุ่มไฟแรงจากกรุงโซลมาช่วยทำคดีไรงี้ แล้วหนังมันก็จะให้เราไปเห็นถึงการสืบสวน การบีบคั้นอารมณ์อ่ะนะจับคนร้ายแม่งมีจับมาโครตหลายคน ละแบบมันน่าจะใช่แต่ใช่รึปล่าวคือทุกอย่างในหนังเรื่องนี้เอาง่ายๆแม่งคลุมเคลือทั้งหมดอ่ะ ไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่าง แล้วหนังก็จะพาให้เราเห็นว่าไอ่ตำรวจที่ทำงานชุ้ยๆน่ะ แม่งก็ค่อยๆเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นเว้ย เพราะเพื่อนมันโดนตัดขาทิ้งละแบบคงคิด เชี้ยไรวะ กุต้องทำคดีนี้ให้สำเร็จให้ได้ ส่วนพ่อตำรวจหนุ่มจากที่เป็นโครตตรงเลย ทำงานเป๊ะๆสลับกลายเป็นโดนความเครียด การบีบคั้นจนตอนจบตัวเองแม่งเอาอารมณ์มาตัดสินผู้ต้องสงสัยคนสุดท้ายเกือบยิงหัวแม่งละ ดีตำรวจบ้านนอกมาห้ามไว้ก่อน
ตอนจบก็อย่างที่บอกหนังเรื่องนี้แม่งคลุมเครือจริงๆ มันจับผู้ต้องสงสัยที่คิดยังไงจากพยานจากรูปคดีละแม่งใช่ชัว แต่ผลตรวจดีเอ็นเอบอกไม่ใช่ ไอ่ตำรวจหนุ่มแม่งเลยบ้าไปเลยเพราะปักใจเชื่อหัวปักหัวปำว่าแม่งต้องใช่ไง ก็เลยทำให้ต้องปล่อยผู้ต้องสงสัยหน้าสวยหนีไป ตัดมาอีกทีหลายปีผ่านไปไอ่ลุงตำรวจบ้านนอกเปลี่ยนอาชีพเป็นเซลล์ขายของน่าจะมาจากผลพวงคดีนี้แหละแล้วดันกลับมาตรงจุดที่เจอศพแรกแล้วมีเด็กมาทักว่าเคยมีคนมาตรงนี้เหมือนกัน มาคิดถึงสิ่งที่ทำไว้เมื่อก่อน แล้วกล้องแม่งก็แคปหน้าไอ่ลุงไว้สักกำก็ตัดจบ ชุ๊บ
พอดูจบแม่งก็เหวอว่ะ เข้าใจว่ามันเป็นหนังเก่าด้วยคือทำได้แบบให้เราไปคิดต่อไงแต่สำหรับกุเรื่องนี้ยังไม่ค่อยอินมากนะ เฉยๆมากกว่าก็พอดูฆ่าเวลาไปได้ แต่ก็ถือเป็นหนังที่ดีนะ ไม่มีอะไรแย่ให้พูดถึง ถ้าใครไม่เคยดูน่าจะลองหาดูสักครั้งเผื่ออาจจะชอบก็ได้ เพราะอีกอย่างเรื่องนี้ดีตรงไม่มีฉากชวนแหวะไง ไม่มีฉากตอนฆ่า มีแค่เห็นละก็เป็นศพเลย ถึงศพจะไม่สวยก็เหอะ๕๕๕ เอานะ
คะแนน ๗/๑๐ คะแนน
ก่อนไปเรื่องหนัง
คืออาทิตย์ที่ผ่านมามีโอกาสได้ดูยูทูปช่องของคุณลุงผมขาว เคราขาว มาทำอาหารไรงี้ แต่คือแกพูดดีมากพูดเพราะทุกคำ วางตัว บุคลิกดีทุกอย่าง เราแม่งมามองตัวเอง ทำไมกุแม่งหยาบจังวะ แก่มาจะเป็นคนหยาบแบบนี้รึปล่าว คือจิงๆนะ คิดไปคิดมาจริงๆในสันดานกุตอนนี้เป็นคนหยาบมาก ความคิดคำในหัวแม่งโครตหยาบอ่ะ แต่การแสดงออกมันก็แล้วแต่สถานที่อ่ะนะ แต่ลุงคนที่ว่าคือดูแล้วในใจในความคิดแกก็คงสุภาพแบบนี้แหละ เห็นละก็สะท้อนตัวเองพอสมควรนะ
![]() |
คุณลุงพูดเพราะ ดูสุภาพบุรุษมากๆๆๆ |
เทสๆ
คือจริงๆเลยนะ ไอ่ขล๊อกเนี่ยเราเข้ามาเกือบตลอดเลย ตั้งใจว่าจะเคลื่อนไหว อัพนู้นนี่เขียนนู้นนี้ พอจะเอาจริงๆแม่งไม่ได้ทำสักที แล้วอีกอย่างเราไปมัวหลงเล่นอัพรูปในอินตราแกรมด้วย พื้นที่แห่งนี้เลยแม่งไม่เคลื่อนไหวเลย เป็นปีกว่าแล้วไม่ได้อัพเลย รู้สึกสงสารพื้นที่ตรงนี้จัง มันอยู่กะเรามาตั้งแต่ฝึกสอน ห้องพักครูแนะแนวที่โรงเรียนยุพราช เราจำได้ เลยไม่อยากทิ้งมันไป
แล้วช่วงที่ผ่านมาคิดได้ว่ามีอยู่อย่างนึงที่อยากทำแต่ไม่เคยลองทำจริงๆสักที แล้วมันก็ไม่มีพื้นที่ให้เราทดลองทำด้วย ก็คืออยากทำรีวิวหนังที่ได้ดูน่ะ เราเป็นคนดูหนังละอินมากนะ คือมันจะมีอะไรบางอย่างติดในหัวทุกครั้งหลังจากดูหนังแต่ละเรื่องจบ ก็มีบ่นๆเปยๆในเฟสในไอจีบ้าง แต่ก็ไม่ได้ลงลึกอธิบายเท่าไหร่ เราไม่มีความรู้เรื่องหนังหรอกนะ จะว่าชอบดูก็ไม่เชิง เพราะส่วนมากก็แม่งมาดูออนไลน์ย้อนหลังซะส่วนใหญ่มีแค่บางเรื่องที่อยากดูในโรงจริงๆถึงจะดั้นด้นไปดูในโรง ว่าละก็มีหนังที่พึ่งดูมาล่าสุดอยากเล่าอยากพูดถึง (ย้ำอีกทีว่าต่อไปที่จะพูดถึงหนังเป็นรสนิยมส่วนตัว ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ แม่งไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับหนังมาก่อน)
ปล.อีกอย่างที่ตั้งใจจะเขียนถึงหนังเพราะอยากให้พื้นที่ตรงนี้มีชีวิต เคลื่อนไหวบ้าง แล้วก็เป็นการบันทึกเก็บความทรงจำเล็กๆเกี่ยวกับหนังที่เราดูต่อไปอีก 5 ปี 10 ปี มาอ่ายตรงนี้อีกทีอาจจะเกิดความคิดใหม่ๆขึ้นก็ได้
แล้วช่วงที่ผ่านมาคิดได้ว่ามีอยู่อย่างนึงที่อยากทำแต่ไม่เคยลองทำจริงๆสักที แล้วมันก็ไม่มีพื้นที่ให้เราทดลองทำด้วย ก็คืออยากทำรีวิวหนังที่ได้ดูน่ะ เราเป็นคนดูหนังละอินมากนะ คือมันจะมีอะไรบางอย่างติดในหัวทุกครั้งหลังจากดูหนังแต่ละเรื่องจบ ก็มีบ่นๆเปยๆในเฟสในไอจีบ้าง แต่ก็ไม่ได้ลงลึกอธิบายเท่าไหร่ เราไม่มีความรู้เรื่องหนังหรอกนะ จะว่าชอบดูก็ไม่เชิง เพราะส่วนมากก็แม่งมาดูออนไลน์ย้อนหลังซะส่วนใหญ่มีแค่บางเรื่องที่อยากดูในโรงจริงๆถึงจะดั้นด้นไปดูในโรง ว่าละก็มีหนังที่พึ่งดูมาล่าสุดอยากเล่าอยากพูดถึง (ย้ำอีกทีว่าต่อไปที่จะพูดถึงหนังเป็นรสนิยมส่วนตัว ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ แม่งไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับหนังมาก่อน)
ปล.อีกอย่างที่ตั้งใจจะเขียนถึงหนังเพราะอยากให้พื้นที่ตรงนี้มีชีวิต เคลื่อนไหวบ้าง แล้วก็เป็นการบันทึกเก็บความทรงจำเล็กๆเกี่ยวกับหนังที่เราดูต่อไปอีก 5 ปี 10 ปี มาอ่ายตรงนี้อีกทีอาจจะเกิดความคิดใหม่ๆขึ้นก็ได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)