เมื่อวานไปจองรถมาแล้ว คิดนานมากหลายอย่างแต่สุดท้ายก็ไปจองมา ได้ฮอนด้า ซิตี๊ ตัวล่างสุด 559000 สีแดงซะด้วยได้รถก็ตอนเดือนมีนาปีหน้านู้น เ็ฮ้อ ต่อไปต้องประหยัดมากๆซะแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555
คำสั่งย้ายออกแล้ว 7ธ.ค 55 แต่ไม่มีชื่อเรา
เหมือนเวลา หยุดนิ่ง ดักจี๊ลี๊
ผ่อเข็มตี๊ นาฬิก๋า ห้าโมงป๋าย
มีน้องปี๊ ป้าน้า โทรมาวาย
บอกไอ่ต่าย จื้อคิง มันบ่มี
ฮาก่อตก สะเกิด หยั่งคนง่าว
ผ่อข้างตาง หันฟ้า มันเปลี่ยนสี
จากสีฟ้า ผ่อแล้ว ม่วนใจ๋ดี
ก๋ายเป๋นสี น้ำต๋า ฮาไข้เซง
ฮาเข้าใจ๋ ฮาเข้าใจ๋ ฮาเข้าใจ๋
ฮาฮู้แล้ว ว่าจะได เป๋นจะอี๊
ฮาตึงฮู้ ฮาหันแล้ว มันบ่ะมี
จั๊งต๋ายตี๊ สักวัน ฮาตึงไป
อยากจะลอง ยกหู หาอ้ายขวัญ
ป้อคิงหยัง จื้อฮา หยังบ่มี๋
คิงไค้ต๋าย เป๋นด้วง กาคนดี
ไค้โดนตี๋ หุกขี้หัก ก้นตึงยืน
แห๋มใจ๋นึ่ง ไค้ก๋ำไม้ ไปกจ
ฝาดกำคน ยอกกำแถว ยุบขำตี๊
แต่พอดี ว่าฮา เป๋นผู้ดี
ได้ก้ากึ๊ด ได้ก้าว่า อู้กั๋นไป
บ่ะ้เด่วนี่ ข่ำใจ๋ อู้บ่ะออก
มันกั๊ดอก ปวดใจ๋ แกนหุกขี้
เสาร์ติ๊ดนี้ ฮากึ๊ด จะทำดี
ปิ๊กบ้านจี๊ กวาดบ้าน ถูบ้านตวย
ถ้าโทรมา ฮาบ่ะฮับ บ่ะต้องถาม
ฮาจะล่วง เข้าวัด ไปทำใจ๋
มาฟังเทศน์ ฟังธรรม สงบใจ
ป่ะกั๋นใหม่ หลังคริสต์มาส เมืองกำแพง
วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ไม่เคยคิดว่าจะเจออีกแล้วคนนี้
ไปเจอรูปไอซ์ในเวปสยามสปอต์มา เห็นเวปแรกก็รู้สึก ตกใจ + แปลกใจ + ดีใจ + บอกไม่ถูก +ผมทอง +เมื่อก่อนน่ารักกว่านี้นะ + แต่แบบนี้ก็โอนะ ไอซ์เนี่ยเป็นผู้หญิงคนแรกในีชีวิตเราเลยนะที่เราหลงแบบว่าเหมือนในหนังไทย GTH อ่ะ แบบกระโดดบนเตียงรอโทรสับ เยอะแยะมากมาย แต่ตอนก็เป็นความรู้สึกแบบแอบรักล่ะนะ เป็นการแอบรักจริงๆ รู้สึกตัวเองเป็นเด็กมาก อ่อนต่อดลกจริงๆถ้ามองจากตอนนี้แต่ตอนนั้นมัน ก็ผ่านเลยมาแล้ว ตอนนี้มีฝ้ายเป็นคนที่รักมากแล้วส่วนไอซ์ก็เป็นความทรงจำในชีวิตช่วงสั้นๆ มันสั้นจริงๆ ตั้งแต่เห็นได้คุย ละก็เลิกคุยแปบเดียวจริงๆ จะเรียกกันว่าเพื่อนได้รึปล่าวก็ยังไม่รุ้ 555+ เพราะมันสั้นมาก ไม่ถึงเดือนเลยมั้ง แต่จริงๆเลยนะความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี่มันก็ยังเหมือนเดิมแต่เราก็รู้ตัวนะว่าตอนนี่เราอยู่จุดไหน ก็คงได้แต่เก็บไว้ในใจ ความทรงจำดีๆในชีวิตอีกช่วงหนึ่งก็เท่านั้นเอง
เอารูปมาจาก เวปสยามสปอต์นะ คงไม่มีไคมา
ฟ้องเรื่องลิขสิทธ์เน้อออ 555+
วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ความคิดที่คิดไม่ได้
เมื่อเราตัดสินใจว่าเราจะทำอาชีพอะไร เราก็ต้องอุทิศตัวให้กับมัน เราต้องรักงานที่เราทำ แล้วเราก็จะทำมันได้ดี เราต้องไม่บ่นงานที่เราทำ ถ้าบ่นก็คือเรายังรักมันไม่พอ เราต้องอุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาตนเอง มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีขึ้น นั้นแหละคือเคล็ดลับความสำเร็จ มันง่ายๆแค่นั้น และเป็นกุญแจสู่การได้รับการยอมรับ
.
.
.
อยากคิดแบบนี้ได้จริงๆ
.
.
.
อยากคิดแบบนี้ได้จริงๆ
วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
http://www.skyscrapercity.com/showpost.php?p=96116010&postcount=30879
http://www.skyscrapercity.com/showpost.php?p=96116010&postcount=30879
อนาคตเชียงใหม่จะเป็นยังไง แน่นไปไหมทำไมไม่กระจายกันไปบ้างน้อ
ไม่ใช่อะไรนะ เป็นห่วงเชียงใหม่
อนาคตเชียงใหม่จะเป็นยังไง แน่นไปไหมทำไมไม่กระจายกันไปบ้างน้อ
ไม่ใช่อะไรนะ เป็นห่วงเชียงใหม่
วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555
หอมนัสนันท์
http://zidofile.com/WKuQwH
วันนี่รู้สึกแบบว่าบอกไม่ถูกเสียใจก็เสียใจเสียความรู้ัสึก เศร้า เหงา ท้อ เบื่อ โล่งใจ มันหลายอย่างตั้งใจจะกลับบ้านขนกระเป๋าหลายอย่างมาเตรียมจะขึ้นรถมาถึงรอบบ่ายสองครึ่งรถไม่จอดเต็มขับผ่านไปเฉยก็ช่างมันรออีกจนรอบสี่โมงเย็นก็ยังเต็มคราวนี่แม้แต่ประตูรถก็ยังไม่เปิดทั้งๆที่เอาของมาส่งแท้ๆสุดท้ายลุงคนขายตั๋วให้เอาตั๋วคืนแค่นั้นแหละน้ำตา่มันเอ่อห้ามไม่ได้จริงๆน้ำตาที่มาจากความรู้สึกแบบนี่ มันคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ ฝ้าย ทุกๆอย่าง บวกกับความตั้งใจแล้วกลั้นไม่อยู่กับน้ำตาที่หยดออกมา คิดถึงบ้าน คิดถึงเชียงใหม่
วันนี่รู้สึกแบบว่าบอกไม่ถูกเสียใจก็เสียใจเสียความรู้ัสึก เศร้า เหงา ท้อ เบื่อ โล่งใจ มันหลายอย่างตั้งใจจะกลับบ้านขนกระเป๋าหลายอย่างมาเตรียมจะขึ้นรถมาถึงรอบบ่ายสองครึ่งรถไม่จอดเต็มขับผ่านไปเฉยก็ช่างมันรออีกจนรอบสี่โมงเย็นก็ยังเต็มคราวนี่แม้แต่ประตูรถก็ยังไม่เปิดทั้งๆที่เอาของมาส่งแท้ๆสุดท้ายลุงคนขายตั๋วให้เอาตั๋วคืนแค่นั้นแหละน้ำตา่มันเอ่อห้ามไม่ได้จริงๆน้ำตาที่มาจากความรู้สึกแบบนี่ มันคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ ฝ้าย ทุกๆอย่าง บวกกับความตั้งใจแล้วกลั้นไม่อยู่กับน้ำตาที่หยดออกมา คิดถึงบ้าน คิดถึงเชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555
9กันยายน
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12627904/A12627904.html
นานๆจะได้มาโพดที เพราะว่ากลับมาบ้านกว่าจะได้ทำอะไรอะไมันก็หมดวันละแป๊บเดียวก็วันจันต้องไปทำงานที่กำแพงเพชรอีกคิดละก็เซงอยากมีเวลาเยอะๆบ้างจังอยากทำนู้นทำนี่อยากอะไรเยอะแยะไปหมดแต่ก็ไม่รุ้จะได้ทำเมื่อไหร่
นานๆจะได้มาโพดที เพราะว่ากลับมาบ้านกว่าจะได้ทำอะไรอะไมันก็หมดวันละแป๊บเดียวก็วันจันต้องไปทำงานที่กำแพงเพชรอีกคิดละก็เซงอยากมีเวลาเยอะๆบ้างจังอยากทำนู้นทำนี่อยากอะไรเยอะแยะไปหมดแต่ก็ไม่รุ้จะได้ทำเมื่อไหร่
วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันหยุด 4 วัน
วันนี่คืนวันเสาร์ที่ 4 เช้าวันอาทิตย์ที่ 5 หลังจากที่ได้กลับมาบ้านตั้งแต่วันพุธตอนค่ำๆนอนบ้านมา 3 คืน อยากบอกว่ามีความสุขมากเลย เป็นความสุขแบบธรรมดาแต่ว่ามันมีความสำคัญกับชีวิตของผมมากเป็นสามวันที่ไม่ได้แทบจะคิดเรื่องอื่นๆเลยนอกจากเรื่องตัวเองสำคัญคือไม่มีเรื่องงานในส่วนใดส่วนหนึ่งของสมองอยู่เลยมันดีจริงๆนะแต่รู้สึกตัวอีกทีวันพุ่งนี่ก็ต้องกลับไปทำงานอีกแล้วทั้งๆที่หยุด4วันแต่ผมกลับได้หยุดแค่3วันเองคิดแล้วก็เศร้าใจอยากอยู่บ้านขอแค่ให้ได้อยู่บ้านแค่นี่ก็มีความสุขแล้ว ได้อยู่กับพ่อแม่ หมาๆ ออกไปหาฝ้ายบ้างไปเที่ยวบ้างทำกับข้าวกินบ้างแค่นี่ก็พอใจแล้ว T^T
วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
หลักการ ปรัชญา อุดมการณ์ พัฒนาชุมชน ในการทำงานพัฒนาปัจจุบัน
(บทความนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ไม่ได้มีเจตนาพาดพิง ใครหรือหน่วยงานไหนทั้งสิ้น)
ตอนนี่ตัวข้าพเจ้ารู้สึกสับสนกับการทำงานของพัฒนากรในปัจจุบันที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ปรัชญาของกรมการพัฒนาชุมชนเพราะเพราะปัจจุบันเราทำงานให้กับชาวบ้านเป็นการทำให้ซะมากกว่าจะเป็นการพัฒนาชาวบ้านเหมือนกับตอนเด็กๆที่เราเคยเรียนหนังสือมาที่ว่าเรื่องพ่อแม่รังแกฉันที่ตอนเด็กๆพ่อแม่มักรังแกเราโดนไม่รู้ตัวโดยการที่สปอยเราคอยปกป้องเราป้อนให้เรามากเกินไปจนเราทำอะไรไม่เป็นโตมากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความสามารถไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองเพราะพ่อแม่ไม่ปล่อยให้เด็กเรียนรู้ปกป้องเด็กมากเกินไป ซึ่งหลังจากข้าพเจ้าทำงานในบทบาทพัฒนากรมาได้เกือบหนึ่งปีได้เห็นการทำงานของพัฒนากรภายในจังหวัดภายในอำเภอที่ทำงานโดยการรังแกชาวบ้านมากเกินไปเพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นในปรัชญาของกรมการพัฒนาชุมชนที่เชื่อว่าคนทุกคนมีศักยภาพสามารถพัฒนาได้แต่ที่ข้าพเจ้าได้เห็นเหมือนกับว่าพัฒนากรในอุดมคติจากการที่ข้าพเจ้าได้ไปอบรมมาฟังผู้บริหารของกรมบรรยายอธิบายเล่าแนวทางจุดมุ่งหมายของกรมมามันล้วนสวนทางกับการปฏิบัติของพัฒนากรที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสมาเหมือนเราตัวพัฒนากรดูถูกชาวบ้านไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของชาวบ้านโดยการรังแกชาวบ้านไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ปกป้องชาวบ้านจนเกินไปยกตัวอย่างง่ายๆที่เห็นได้เป็นรูปธรรมที่สุด การทำมารตฐานแผนชุมชน คำว่าแผนชุมชนก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นแผนของชุมชนพัฒนากรควรมีหน้าทีึ่่แนะนำให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงให้กับหมู่บ้านแต่ที่เห็นเหมือนกับว่าพัฒนากรกลัวเกินกว่าทีั่จะปล่อยให่้ชาวบ้านได้เรียนรู้ทำเองต้องเป็นคนทำให้ชุมชนทั้งหมดซึ่งผลที่ได้ก็ยังไปสู่ตัวชี้วัดของกรมที่ต้องการให้แผนชุมชนผ่านแต่ตัวหมู่บ้านตัวผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชนไม่สามารถทำอะไรเป็นเลยสักอย่างแล้วสุดท้ายแผนชุมชนที่เป็นของพัฒนานั้นก็ผ่านโดยที่ชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมของแผนของตัวเองเลยตัวพัฒนากรไม่สามารถที่จะดูแลชาวบ้านทุกหมู่บ้านได้ไปตลอดเพราะไม่วันใดวันหนึ่งพัฒนากรคนเก่าก็ต้องไปคนใหม่ก็มาแต่ชาวบ้านเองที่ต้องอยู่ที่เดดิมที่บ้านของเขาถ้าชาวบ้านทุกคนเห็นว่าพัฒนากรสามารถทำให้เขาได้ทุกอย่างต่อไปหมู่บ้านก็จะไม่คิดจะพัฒนาตนเองอีกหวังพึ่งแต่ข้าราชการที่จะเอาอันนั้นมาให้จะทำไอ่นี่ให้ซึ่งมันก็ผิดกับเป้าหมายของกรมที่จุดมุ่งหมายสูงสุดที่หวังให้ชุมชนเข้มแข็งประชาชนพึ่งตนเองได้ แต่ถ้าประชาชนหวังพึ่งแต่ข้าราชจะสามารถเข้มแข็งได้อย่างไร ประชาชนจะสามารถพึ่งตนเองได้อย่างไรเป้าหมายที่จะพัฒนาคนในชุมชนก็จะเป็นการพัฒนาตัวพัฒนากรเองซะมากกว่าแต่โดยทั้งหมดที่กล่าวเป็นได้แค่ความคิดเห็นในทางปฏิบัติแล้วนั้นพัฒนากรหรือข้าราชการทุกส่วนก็ยังคงต้องรังแกชาวบ้านต่อไปตราบใดที่ระบบตัวชี้วัดระบบการทำงานของข้าราชการยังไม่ได้เปลี่ยนเปลง
ตอนนี่ตัวข้าพเจ้ารู้สึกสับสนกับการทำงานของพัฒนากรในปัจจุบันที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ปรัชญาของกรมการพัฒนาชุมชนเพราะเพราะปัจจุบันเราทำงานให้กับชาวบ้านเป็นการทำให้ซะมากกว่าจะเป็นการพัฒนาชาวบ้านเหมือนกับตอนเด็กๆที่เราเคยเรียนหนังสือมาที่ว่าเรื่องพ่อแม่รังแกฉันที่ตอนเด็กๆพ่อแม่มักรังแกเราโดนไม่รู้ตัวโดยการที่สปอยเราคอยปกป้องเราป้อนให้เรามากเกินไปจนเราทำอะไรไม่เป็นโตมากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความสามารถไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองเพราะพ่อแม่ไม่ปล่อยให้เด็กเรียนรู้ปกป้องเด็กมากเกินไป ซึ่งหลังจากข้าพเจ้าทำงานในบทบาทพัฒนากรมาได้เกือบหนึ่งปีได้เห็นการทำงานของพัฒนากรภายในจังหวัดภายในอำเภอที่ทำงานโดยการรังแกชาวบ้านมากเกินไปเพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นในปรัชญาของกรมการพัฒนาชุมชนที่เชื่อว่าคนทุกคนมีศักยภาพสามารถพัฒนาได้แต่ที่ข้าพเจ้าได้เห็นเหมือนกับว่าพัฒนากรในอุดมคติจากการที่ข้าพเจ้าได้ไปอบรมมาฟังผู้บริหารของกรมบรรยายอธิบายเล่าแนวทางจุดมุ่งหมายของกรมมามันล้วนสวนทางกับการปฏิบัติของพัฒนากรที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสมาเหมือนเราตัวพัฒนากรดูถูกชาวบ้านไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของชาวบ้านโดยการรังแกชาวบ้านไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ปกป้องชาวบ้านจนเกินไปยกตัวอย่างง่ายๆที่เห็นได้เป็นรูปธรรมที่สุด การทำมารตฐานแผนชุมชน คำว่าแผนชุมชนก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นแผนของชุมชนพัฒนากรควรมีหน้าทีึ่่แนะนำให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงให้กับหมู่บ้านแต่ที่เห็นเหมือนกับว่าพัฒนากรกลัวเกินกว่าทีั่จะปล่อยให่้ชาวบ้านได้เรียนรู้ทำเองต้องเป็นคนทำให้ชุมชนทั้งหมดซึ่งผลที่ได้ก็ยังไปสู่ตัวชี้วัดของกรมที่ต้องการให้แผนชุมชนผ่านแต่ตัวหมู่บ้านตัวผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชนไม่สามารถทำอะไรเป็นเลยสักอย่างแล้วสุดท้ายแผนชุมชนที่เป็นของพัฒนานั้นก็ผ่านโดยที่ชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมของแผนของตัวเองเลยตัวพัฒนากรไม่สามารถที่จะดูแลชาวบ้านทุกหมู่บ้านได้ไปตลอดเพราะไม่วันใดวันหนึ่งพัฒนากรคนเก่าก็ต้องไปคนใหม่ก็มาแต่ชาวบ้านเองที่ต้องอยู่ที่เดดิมที่บ้านของเขาถ้าชาวบ้านทุกคนเห็นว่าพัฒนากรสามารถทำให้เขาได้ทุกอย่างต่อไปหมู่บ้านก็จะไม่คิดจะพัฒนาตนเองอีกหวังพึ่งแต่ข้าราชการที่จะเอาอันนั้นมาให้จะทำไอ่นี่ให้ซึ่งมันก็ผิดกับเป้าหมายของกรมที่จุดมุ่งหมายสูงสุดที่หวังให้ชุมชนเข้มแข็งประชาชนพึ่งตนเองได้ แต่ถ้าประชาชนหวังพึ่งแต่ข้าราชจะสามารถเข้มแข็งได้อย่างไร ประชาชนจะสามารถพึ่งตนเองได้อย่างไรเป้าหมายที่จะพัฒนาคนในชุมชนก็จะเป็นการพัฒนาตัวพัฒนากรเองซะมากกว่าแต่โดยทั้งหมดที่กล่าวเป็นได้แค่ความคิดเห็นในทางปฏิบัติแล้วนั้นพัฒนากรหรือข้าราชการทุกส่วนก็ยังคงต้องรังแกชาวบ้านต่อไปตราบใดที่ระบบตัวชี้วัดระบบการทำงานของข้าราชการยังไม่ได้เปลี่ยนเปลง
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
พุ่งนี้ตื่นไปทำงานกำแพงนั่งรถหกชั่วโมงอีกละ เซง
ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วเงินของเราที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจยังไงก็ตามมันก็ต้องย้อนกลับมาหาเราอยู่ดี
วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ไม่รู้และรู้
หลังจากไม่ได้กลับบ้านมา2อาทิดย์กลับมาแม่ก็พาไปจัดหมูกระทะเลยอิ่มสาดดดดดดดดดเย็นอ่ะเย็นใจเย็นกายมีความสุขมากรู้สึกว่านี่คือตัวตนของเราที่ของเราจริงๆแต่วันอาทิตย์ก็ต้องกลับอีกละก้ายสาด -*-
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ฝนตกแล้ว ๆๆ
ตอนนี่ฤดูฝนแล้วสินะชอบจังฝนตกละนั่งฟังเสียงฝนตกดูฝนตกจากท้องฟ้ามีความสุขมากอยู่บ้านด้วยเสียงกบเขียดระงมเลย555+รู้สึกบ้านตัวเองบ้านนอกจังแต่ก็ชอบนะมีความสุขได้ฟังเสียงพวกนี้ตอนเช้านั่งฟังพระสวดสืบชะตาหมู่บ้านฝนก็ตกลมก็เย็นชอบมากๆๆ
วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
รับปริญญาฝ้าย
วันพรุ่งนีั่วันจันทร์ซึ่งปกติแล้วก็ต้องไปทำงานที่กำแพงแต่ก็ลามาเชียงใหม่เพื่อจะไปงานฝ้ายซึ่ง23เป็นวันถ่ายรูปที่มหาลัยแต่ดันตรงกับที่ตาไปหาหมอความรู้สึกบอกไม่ถูกทำไมต้องเงี่ยด้วยเรารึตั้งใจจะมางานฝ้ายแต่ดันต้องไปส่งตาทำให้ทุกอย่างมันผิดไปหมดเลยไม่โทษตาไม่โทษแม่ไม่โทษใครเพราะมันไม่มีใครผิดจริงๆเซงว่ะ+รู้สึกว่าทำไมต้องอย่างนี้ด้วยแต่เราก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดไม่รุ้จะทำยังไงได้แต่ก้มหน้ารับความเป็นจริงเงินตอนนี่ก็หมดแล้วหมดจริงๆเงินที่เคยได้เป็นก้อนมาหลายๆคราวตอนนี่หมดแล้วเหลือแต่เงินเดือนของตัวเองล้วนๆซึ่งมันแทบจะไม่พออยู่แล้วนี่ต้องกลับบ้า่นมาบ้านก็ต้องเติมน้ำมันรถเพื่ออกไปข้างนอกอีกไม่รวมที่ออกไปข้างนอกแล้วกินแล้วใช้อีกมันเครียดนะจริงๆอุตสาผ่านเรื่องที่ฝ้ายเมนมาช้ามาได้ก็ต้องมาเครียดเรื่องนี่อีกไม่รุ้จะทำยังไงแล้วไม่รุ้จะบอกกับใครขนาดฝ้ายเองคนที่รักและไว้ใจมากที่สุดก็ยังบอกไม่ได้คือบอกไปก็ไปทำให้ฝ่ายนู้นคิดมากอีกทำให้เขาเสียใจอีกเว๊ย วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
สงกราน ๒๕๕๕
วันนี่กลับมาจากเล่นน้ำไปล่องแพกันมาที่แม่วินอ.แม่วางก็ที่เดิมนั้นแหละแต่ที่เปลี่ยนไปคือจำนวนคนที่เยอะมาก มากจริงๆทีแรกก็แทบถอดใจว่าสงสัยคงจะไม่ได้ล่องแพแต่สุดท้ายได้มาตอนนี่แพราคา350ต่อหนึ่งแพจากครั้งแรกที่มาล่องเสียไป200บาทก็เร็วมากกับราคาที่ปรับขึ้นและเวลที่ผ่านไปตั้งแต่กลับมาถึงบ้านวันพุธตอนเที่ยงคืนถึงตอนนี่คืนวันศุกร์เสียเงินไปเยอะมากทั้งๆที่จะบอกตัวเองว่้าต้องประหยัด มีค่าต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง200ค่าน้ำมันรถคุณลุง300กินข้าวเมื่อเช้าอีก60กินข้าวเมื่อคืนอีก60ค่าเบียร์อีก600ค่าเติมน้ำมันรถฝ้ายอีก300ซื้อไก่ย่างไส้ย่างตอนเย็นอีก100จนเลยกูต้องเก็บใหม่อีกแล้ว แต่ก็มีความสุขมากวันนี่ได้ไปกับฝ้ายกับเพื่อนๆทั้งไอ่เก้และไอ่แนนเงินที่เสียไปหาเมื่อไหร่ก็ได้แต่เวลาประสบการณ์ที่ดีๆแบบนี่หาใหม่ไม่ได้ทุกวันขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้วันแห่งความสุขผ่านไปด้วยดี
ปล.ที่จริงอยากจะเขียนเรื่องงานที่กำแพงเรื่องคนที่กำแพงเรื่องหลายๆสิ่งที่กำแพงแต่ก็ไม่รุ้จะเริ่มยังไงแต่รู้ว่าสรุปแล้วก็คือคำว่า "โครตเซง"
วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
กลับมาที่คลองขลุง คิดมาก เซง
กลับมาจากอบรมได้สองสามอาทิดละกลับมาทำงานที่อำเภอคลองขลุงเหมือนเดิมแต่คราวนี่รู้สึกเบื่อมากไม่มีความสุขในการทำงานเลยเบื่อมากอยากลาออกไม่อยากทำงานเลยจริงๆเซงทุกอย่างอยากกลับมาอยู่บ้านอยากนอนเฉยๆเหตุผลไม่รุ้เหมือนกันคือคิดว่าน่าจะเป็นเพราะที่ทำงานมีแต่ผู้หญิงแล้วก็นิสัยผู้หญิงอ่ะนะเลยทำให้รู้สึกแย่ๆ มันจุกจิก มันนินทา มันหลายอย่าง ก็เลยเบื่ออยากลาออกแต่ก็ได้แต่คิดเพราะเหตุผลมันไม่มีเอาซะเลยสุดท้ายก็คงต้องทนเอาล่ะวะ
วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555
ปีใหม่ ๒๕๕๕
สวัสดีปีใหม่2555ตอนนี่หยุดมาได้3วันละครบกำหนดกลับไปฝึกอบรมที่บางละมุงชลบุรีอยากบอกว่าตลอดเวลา2-3วันที่ผ่านมามีความสุขมากทั้งที่อยู่บ้านอยู่เชียงใหม่ไปดูหนังกับพ่อแม่ไปเที่ยวกับฝ้ายไปกินข้าวกันทั้งครอบครัวเรากะฝ้ายทุกอย่างตลอดเวลาที่ผ่านมามันช่วยทำให้เรามีความสุขมากละก็รู้สึกว่าเราดชคดีจริงๆเลยที่ได้ช่วงเวลาที่ดีแบบนี่พรุ้งนี่ขึ้นรถไอ่แหมไปน่าจะสองคนมั้งแต่ก็โอเคหวังว่าจะเดินทางไปอบรมและกลับมาบ้านมาหาฝ้ายหลังจากอบรมเสร็จแล้วเดือนกุมภาและได้มามีความสุขแบบนี่อีกนะ มีความสุขจริงๆปีใหม่ปีนีั้้หวังว่าจะมีความสุขสมหวังแบบนี้ตลอดทั้งปีเลยนะค้าบบบบ สาธุๆ ๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)